โคราชคว้าสิทธิ์เป็นเจ้าภาพจัดงานพืชสวนโลก “โคราช เอ็กซ์โป 2029”

สมาคมพืชสวนระหว่างประเทศ (The International Association of Horticultural Producers – AIPH) ประกาศให้สิทธิ์ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก (International Horticultural Expo) หรือ “โคราช เอ็กซ์โป 2029” การได้รับสิทธิ์จัดงานระดับโลกครั้งนี้ จะช่วยยกระดับจังหวัดนครราชสีมาให้เป็นศูนย์กลางด้านนวัตกรรมและความยั่งยืนในอุตสาหกรรมพืชสวน ภายใต้แนวคิด “ธรรมชาติและพรรณพืชเขียวขจี อนาคตแห่งโลกสีเขียว” (Nature & Greenery: Envisioning the Green Future)
 

   “โคราช เอ็กซ์โป 2029” หรืองานมหกรรมพืชสวนโลกนครราชสีมา พ.ศ. 2572 มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10 พฤศจิกายน 2572 ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2573 ถือเป็นงานมหกรรมระดับโลก ประเภท A1 คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมชมงานจำนวน 2.6 – 4 ล้านคน สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจตามนโยบาย Korat First

           

การประกาศผลการคัดเลือกให้จังหวัดนครราชสีมาได้รับสิทธิ์เป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกนครราชสีมา พ.ศ.2572 มีขึ้นระหว่างการประชุมประจำปี 2567 ของสมาคมพืชสวนระหว่างประเทศ (AIPH) ที่กรุงโดฮา รัฐกาตาร์ ในวันที่ 6 มีนาคม พ.ศ.2567 โดยผู้แทนจากทีมประเทศไทยที่เข้าร่วมประชุมและนำเสนอความพร้อมของประเทศไทยในรอบสุดท้ายประกอบด้วย ผู้แทนจากกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จังหวัดนครราชสีมา และสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ โดยไทยจะต้องเตรียมเสนอตัวต่อองค์การนิทรรศการนานาชาติ หรือ BIE (Bureau International des Expositions) ในลำดับต่อไปเพื่อรับการรับรองสู่การเป็นงานเอ็กซ์โประดับโลกอย่างสมบูรณ์แบบ

   

Korat Expo 2029 ที่จะเกิดขึ้นนี้เป็นงานพืชสวนระดับโลก ซึ่งจะมีหลายประเทศเข้าร่วมงาน เพื่อร่วมแสดงพืชพรรณ นวัตกรรม วัฒนธรรม และเยี่ยมชมงานจำนวนมาก เป็นโอกาสในการเข้าถึงทรัพยากรทางการเงิน การลงทุนด้านเทคโนโลยี การพัฒนาด้านการศึกษาวิจัย การขนส่ง และยิ่งไปกว่านั้น จะเกิดการพัฒนาองค์ความรู้ให้กับบุคลากรท้องถิ่นของภาคอีสาน ถือเป็นโอกาสแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ

​

นอกจากนี้ ยังเป็นการยกระดับเทคโนโลยีในภาคการเกษตรที่สำคัญ โดยจะมีการนำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อเพิ่มผลผลิตและประสิทธิภาพในการเกษตร งานนี้ถือเป็นโอกาสทองของการท่องเที่ยวอย่างแท้จริง เพราะจะมีนักท่องเที่ยวจากหลากหลายชาติเข้าร่วมงาน จึงเป็นการสร้างโอกาสในการเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวและเสริมสร้างภูมิปัญญา และแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมได้อีกด้วย โดยภาพรวมๆ จังหวัดนครราชสีมาจะได้ประโยชน์อย่างมาก ทั้งด้านเศรษฐกิจ และการพัฒนาการเกษตรไปพร้อมกับการพัฒนาความสามารถของบุคลากรในระยะยาว

 

เบื้องต้นคาดว่าจะมีเงินหมุนเวียนสะพัดในช่วงเวลาการจัดงานจำนวนมาก แค่เพียงรัฐบาลไทยลงทุนก็มากถึง 4,800 ล้านบาท ซึ่งยังไม่นับการลงทุนจากนานาประเทศ และนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลเข้ามาด้วย